ขี้เจียก
ชื่อสมุนไพร | ขี้เจียก |
ชื่ออื่นๆ | ขี้เจียก (อุบลราชธานี), เครือพูทอง, ตำแยดิน |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Argyreia thorelii Gagnep. |
ชื่อพ้อง | |
ชื่อวงศ์ | Convolvulaceae |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้เถาเลื้อยล้มลุก มีหัวใต้ดิน มีขนยาวสีน้ำตาลทองประปรายตามกิ่ง แผ่นใบทั้งสองด้าน หนาแน่นตามช่อดอก ใบประดับ และกลีบเลี้ยง ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปแถบแกมรูปใบหอก กว้าง 1.2-2.5 เซนติเมตร ยาว 8-14 เซนติเมตร ปลายใบแหลมถึงเรียวแหลม โคนใบป้าน แผ่นใบค่อนข้างหนา แผ่นใบด้านล่างมีนวล เส้นแขนงใบข้างละ 7-9 เส้น ก้านใบมีขนหยาบแข็ง ก้านใบยาว 0.7-1 ซม. ดอกช่อ แบบช่อกระจุก ออกสั้นๆที่ซอกใบ ดอกย่อย 3-7 ดอก ในแต่ละช่อ ก้านช่อยาว 1-1.5 เซนติเมตร ก้านดอกยาวประมาณ 5 มิลลิเมตร ใบประดับรูปใบหอก ยาว 0.8-1.2 เซนติเมตร ติดทน กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปแถบ ปลายแหลม มีขนหยาบแข็ง ขนาดไม่เท่ากัน กลีบคู่นอกยาว 1.8-2 เซนติเมตร 3 กลีบในสั้นกว่าเล็กน้อย กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบดอกรูปดอกเข็ม ปลายแหลม แยกเป็น 5 แฉก หลอดกลีบดอกยาว 4-5 เซนติเมตร แฉกกลีบดอกยาวประมาณ 2 เซนติเมตร เกสรเพศผู้ยื่นพ้นเลยปากกลีบดอก ยาว 3.8-4 เซนติเมตร ก้านชูอับเรณูแผ่กว้างด้านโคน มีปุ่มขนาดเล็กกระจาย โคนอับเรณูรูปเงี่ยงลูกศร เรณูเป็นหนามละเอียด จานฐานดอกรูปวงแหวน รังไข่เกลี้ยง มี 2 ช่อง เกสรเพศเมียยาวเท่า ๆ เกสรเพศผู้ ยอดเกสรหยัก 2 พู ผลสดเมื่อแห้งแตก ทรงกลม มีหลายเมล็ด พบตามป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้งที่เป็นหินทราย ที่ระดับความสูง 150-650 เมตร ออกดอกราวเดือนสิงหาคมถึงกันยายน
ลักษณะวิสัย
ใบ และ ผล
ดอก และ ใบ
ผล และ ใบ
สรรพคุณ
ยาพื้นบ้านอีสานใช้ ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ไอ รับประทานสด เป็นยาระบาย