มะเขือขื่น

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

มะเขือขื่น

ชื่อสมุนไพร มะเขือขื่น
ชื่ออื่นๆ มะเขือเหลือง มะเขือขันขำ มะเขือคางกบ มะเขือคำ มะเขือแจ้ (ภาคเหนือ) มะเขือเปราะ มะเขือเสวย มะเขือแจ้ดิน (เชียงใหม่) มังคิเก่ (แม่ฮ่องสอน) เขือหิน (ภาคใต้) เขือเพา (นครศรีธรรมราช)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Solanum aculeatissimum Jacq.
ชื่อพ้อง Solanum cavaleriei H. Lév. & Vaniot, Solanum khasianum
ชื่อวงศ์ Solanaceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
              ไม้ล้มลุก กึ่งไม้พุ่มขนาดเล็ก สูงประมาณ 1-3 เมตร ตามลำต้นมีหนามสั้น โคนต้นแก่มีเนื้อไม้แข็ง ลำต้นและกิ่งก้านรูปทรงกระบอกตั้งตรง มีสีม่วงทั้งลำต้น กิ่งก้านและใบมีขนอ่อนละเอียดขึ้นอยู่ทั่วไป มีขนรูปดาวยาวประมาณ 2 มิลลิเมตร และพบขนชนิดมีต่อม มีขนสั้นปกคลุมทั้งต้น มีหนามโค้งหรือตรง ขนาด  1-5 × 2-10 มิลลิเมตร ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเรียงสลับ แผ่นใบมีหลายรูปร่าง แผ่นใบรูปไข่ขนาด กว้าง 4-12 ซม. ยาว 4.5-18 ซม. มีขนรูปดาวทั้งสองด้านของใบ โคนใบรูปหัวใจ ฐานใบสองด้านเยื้องกันเล็กน้อย ขอบใบหยักเว้าเป็นพูตื้นๆ 5-7 พู ปลายใบแหลมหรือมน มีหนามแหลมตามเส้นกลางใบ หลังใบสีเขียว ท้องใบเรียบเป็นมัน ก้านใบอ้วนสั้น ยาว 3-7 เซนติเมตร อาจพบหนามตามก้านใบ ดอกออกเป็นช่อสั้นแบบช่อกระจะ ดอกย่อย 4-6 ดอก หรือออกดอกเดี่ยวตามซอกใบ ก้านช่อยาว 1 เซนติเมตร ก้านดอกย่อยยาว 5-10 มิลลิเมตร มีขนยาวห่างๆ กลีบดอกสีม่วง มี 5 กลีบ โคนเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวยสั้น ปลายแยกเป็นห้าแฉก กลีบรูปหอก ขนาด 4 × 14  มิลลิเมตร มีขนนุ่มเหมือนวงกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยงสีเขียว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยกเป็น 5 แฉก ติดอยู่จนติดผล แต่ละแฉกรูปหอกแกมรูปขอบขนาน ขนาด 5x15 มิลลิเมตร มีขนนุ่ม วงกลีบเลี้ยงรูประฆังขนาด 5.5 เซนติเมตร  เกสรสีเหลืองมี 5 อัน ก้านชูอับเรณูยาว 1-2 มิลลิเมตร อับเรณูรูปหอก เรียวแหลม ขนาด  6-7  มิลลิเมตร รังไข่เกลี้ยง ก้านชูเกสรเพศเมียยาว 6-7  มิลลิเมตร ผลรูปทรงกลม ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 เซนติเมตร ผิวเรียบเป็นมัน เปลือกเหนียว ผลอ่อนผิวเรียบลื่นสีเขียวเข้ม มีลายสีขาวแทรก เมื่อสุกมีสีเหลืองสด ชั้นเนื้อผลบางมีสีเขียวอ่อนอมเหลืองใส มีกลิ่นเฉพาะตัว มีรสขื่น เมล็ดกลมแบนเล็กๆ สีน้ำตาลอ่อน มีเมล็ดจำนวนมาก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-2.8 มิลลิเมตร ออกดอกราวเดือนมีนาคมถึงสิงหาคม ติดผลราวเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม พบตามที่รกร้าง ทุ่งหญ้า ป่าเปิด ที่ระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 600-2,300 เมตร

 

ลักษณะวิสัย

 

ใบ และ ดอก

 

ดอก

 

ผลอ่อน

 

ผลแก่

 

ผล และ เมล็ด


สรรพคุณ    
              ตำรายาไทย ราก รสขื่นเอียน เปรี้ยวเล็กน้อย เป็นยาขับเสมหะและน้ำลาย แก้ไข้สันนิบาต แก้น้ำลายเหนียว รากแช่น้ำกินแก้ไอ ลดไขมันในเส้นเลือด กระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้ที่มีพิษร้อน ใช้ปรุงกับยาอื่น แก้กามตายด้าน ผล รสเปรี้ยวขื่นเย็น เป็นยากัดเสมหะ แก้น้ำลายเหนียว แก้ไข้สันนิบาต เป็นยาบำรุง ผล เมือกจากผล ขูดตากแดด ใส่เหล้า อัตราส่วน 32 ลูก ต่อเหล้าหนึ่งขวด แก้ปวดเมื่อย ผลนำมาใส่แกง น้ำพริก หรือฝานเอาเฉพาะเปลือกใส่ในส้มตำลาว มีรสขื่นช่วยลดความเค็มของปลาร้าได้ ทำให้รสชาติส้มตำกลมกล่อม

             ข้อควรระวัง คนไข้ที่มีอาการไอ ไม่ควรรับประทานผล เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง

 

ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง : phar.ubu.ac.th/herb-thaiherbarium/

จำนวนครั้งที่มีการอ้างอิงหน้าเว็บไซต์นี้: 54
เกี่ยวกับระบบ:

ระบบนี้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก ระบบฐานข้อมูลสมุนไพรทั้ง 4 ฐาน โดยผู้พัฒนาได้ดำเนินการสร้างหน้า UX/UI ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นรูปแบบเดียวกันกับเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มอบ. แต่ยังคงใช้ฐานข้อมูล Database ของฐานข้อมูลสมุนไพรทั้ง 4 ฐานเดิมอยู่