ผักชีลา
ชื่อเครื่องยา | ผักชีลา |
ชื่ออื่นๆของเครื่องยา | |
ได้จาก | ผล |
ชื่อพืชที่ให้เครื่องยา | ผักชีลา |
ชื่ออื่น (ของพืชที่ให้เครื่องยา) | ผักชี ผักหอมป้อม ผักหอม ผักหอมน้อย ยำแย้ ผักชีไทย ผักชีหอม |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Coriandrum sativum L. |
ชื่อพ้อง | Bifora loureiroi Kostel., Coriandropsis syriaca H.Wolff, Coriandrum globosum Salisb., Coriandrum majus Gouan, Selinum coriandrum |
ชื่อวงศ์ | Apiaceae |
ลักษณะภายนอกของเครื่องยา:
ผลแก่แห้งรูปทรงกลม (mericarps) สีน้ำตาลอ่อน ประกอบด้วย cremocarp 2 อัน ผลแก่แห้งแล้วแตก แต่ละ cremocarp มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 มิลลิเมตร ผิวนอกสีเหลืองน้ำตาลถึงสีน้ำตาล มีสันประมาณ 10 อัน ผนังเป็นคลื่น พบส่วนกลีบเลี้ยงและเกสรตัวเมียหลงเหลืออยู่ ผลมีกลิ่นหอมเฉพาะ รสเผ็ด
เครื่องยา ผักชีลา
เครื่องยา ผักชีลา
ลักษณะทางกายภาพและเคมีที่ดี:
ปริมาณความชื้นไม่เกิน 13% w/w (เภสัชตำรับอังกฤษ) ปริมาณสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 2% w/w ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 6% w/w ปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด ไม่เกิน 1.5% w/w ปริมาณสารสกัดเอทานอล ไม่น้อยกว่า 10% w/w สารสกัดน้ำ ไม่น้อยกว่า 19% w/w ปริมาณน้ำมันหอมระเหย ไม่น้อยกว่า 0.3% v/w (เภสัชตำรับอินเดีย)
สรรพคุณ:
ตำรายาไทย ผล รสหวานฝากร้อนหอม (สุขุม) แก้พิษตานซาง ขับลม แก้ท้องอืดเฟ้อ บำรุงธาตุ แก้สะอึก แก้กระหายน้ำ แก้คลื่นไส้อาเจียน เป็นน้ำกระสาย ยาแก้อาเจียน แก้ตาเจ็บ แก้ลมวิงเวียน บำรุงกระเพาะอาหาร ทำให้เจริญอาหาร แก้บิด ถ่ายเป็นเลือด คั่วบดผสมสุรากินแก้ริดสีดวงทวารมีเลือดออก ต้มเอาน้ำอมบ้วนปาก แก้ปวดฟัน แก้เจ็บในปากคอ
บัญชียาจากสมุนไพร: ที่มีการใช้ตามองค์ความรู้ดั้งเดิม ตามประกาศ คณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ระบุการใช้ผลผักชีลา ในยารักษากลุ่มอาการทางระบบทางเดินอาหาร ปรากฏในตำรับ “ยาธาตุบรรจบ” มีส่วนประกอบของผลผักชีลา ร่วมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ ในตำรับ มีสรรพคุณ บรรเทาอาการท้องอืดเฟ้อ และอาการอุจจาระธาตุพิการ ท้องเสียที่ไม่ติดเชื้อ
รูปแบบและขนาดวิธีใช้ยา:
ไม่มีข้อมูล
องค์ประกอบทางเคมี:
น้ำมันหอมระเหย พบประมาณ 1% ประกอบด้วย D-(+)-linalool 55-77%, monoterpene hydrocarbon 20%
การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
ฤทธิ์ป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
ทำการทดลองโดยให้ผงเมล็ดผักชีลา นำมากระจายตัวในน้ำ ในขนาด 250 และ 500 mg/kg แก่หนูแรท สายพันธุ์วิสตาร์ โดยให้สายอาหารไปยังกระเพาะอาหารหนู เป็นเวลา 30 นาที ก่อนจะได้รับสารที่กระตุ้นให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ได้แก่ 25% NaCl, 0.2M NaOH, 80% ethanol และยาต้านการอักเสบ indomethacin (30mg/kg) ผลยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร พบว่าผงผักชีลา ขนาด 250 mg/kg ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เหนี่ยวนำด้วย NaCl ได้ ผลผักชีลาขนาด 500 mg/kg ลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เหนี่ยวนำด้วย NaCl และ ethanol ได้ ผลต่อการปกป้องเยื่อเมือกที่กระเพาะอาหาร ที่เหนี่ยวนำให้เยื่อเมือกในกระเพาะอาหารลดลง ด้วย 80% ethanol พบว่าการให้ผงผักชีลาในขนาด 250 และ 500 mg/kg แก่หนูแรท ก่อนให้เอทานอล ทำให้ระดับของเยื่อเมือกกลับมาสู่ภาวะปกติได้ แต่ผงผักชีลาไม่สามารถยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหารที่เหนี่ยวนำด้วย indomethacin (Al-Mofleh, et al., 2006)
ฤทธิ์คลายความวิตกกังวล
การศึกษาฤทธิ์คลายกังวล ของสารสกัดน้ำจากเมล็ดผักชีลา ในหนูถีบจักรเพศผู้ ด้วยวิธี elevated plus-maze ซึ่งเป็นวิธีประเมินฤทธิ์คลายกังวลโดยทดสอบความกลัว และอาการวิตกกังวลของหนู เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตราย โดยถ้าสารมีฤทธิ์คลายกังวล หนูจะเข้าไปใน open arm หรือใช้เวลาใน open arm นานขึ้นภายในเวลา 5 นาที การทดสอบใช้สารสกัดในขนาด 10, 25, 50,100 mg/kg โดยการฉีดเข้าช่องท้องของหนู พบว่าที่ขนาด 100 mg/kg มีฤทธิ์ในการคลายกังวล โดยทำให้หนูใช้เวลาอยู่ใน open arm นานขึ้น ดังนั้นสารสกัดน้ำจากเมล็ดผักชีลา จึงมีศักยภาพในการนำไปพัฒนายาคลายความวิตกกังวล และอาจมีฤทธิ์เป็นยานอนหลับได้ด้วย (Emamghoreishi, et al., 2005)
การศึกษาทางคลินิก:
ไม่มีข้อมูล
อาการไม่พึงประสงค์:
การใช้ทางผิวหนัง อาจทำให้แพ้ได้ถ้าถูกแสง เนื่องจากผลผักชีมีสารกลุ่มคูมาริน (นพมาศ และนงลักษณ์, 2551)
การศึกษาทางพิษวิทยา:
การทดสอบพิษเฉียบพลันของสารสกัดผลด้วยเอทานอล 50% โดยให้หนูกินในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (คิดเป็น 6,250 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) และให้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู ในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตรวจไม่พบอาการเป็นพิษ (กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์, 2546)
เอกสารอ้างอิง:
1. กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข. 2546. ประมวลผลงานวิจัยด้านพิษวิทยา ของสถาบันวิจัยสมุนไพร เล่ม 1.โรงพิมพ์การศาสนา:กรุงเทพมหานคร.
2. นพมาศ สุนทรเจริญนนท์, นงลักษณ์ เรืองวิเศษ. คุณภาพเครื่องยาไทย จากงานวิจัย สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน. คอนเซ็พท์ เมดิคัส จำกัด: กรุงเทพมหานคร, 2551.
3. Al-Mofleh IA, Alhaider AA, Mossa JS, Al-Sohaibani MO, Rafatullah S, Qureshi S. Protection of gastric mucosal damage byCoriandrum sativum L. pretreatment in wistar albino rats. Environmental Toxicology and Pharmacology 2006;22:64–69.
4. Emamghoreishi M, Khasaki M, AazamMF.Coriandrum sativum: evaluation of its anxiolytic effect in the elevated plus-maze. J Ethnopharmacology. 2005;96:365–370.
ข้อมูลตำรับยาธาตุบรรจบ : phar.ubu.ac.th/herb-thairemedy/