เจตพังคี

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

เจตพังคี

ชื่อสมุนไพร เจตพังคี
ชื่ออื่นๆ ใบหลังขาว (ภาคกลาง) ตองตาพราน (สระบุรี) ตะเกีย เปล้าเงิน หนาดตะกั่ว (นครพนม) เปล้าน้ำเงิน (ภาคใต้) มนเขา (สุราษฎร์ธานี) สมี (ประจวบคีรีขันธ์)
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cladogynos orientalis Zipp.ex Span.
ชื่อพ้อง Adenochlaena siamensis Ridl., A. odontophyllum Miq., Baprea bicolor Pierre ex Pax & K.Hoffm. , Cephalocroton discolor Müll.Arg., C. orientalis (Zipp. ex Span.) Miq., Conceveiba tomentosa Span., Rottlera albicans
ชื่อวงศ์ Euphorbiaceae

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
            ไม้พุ่ม สูง 2 เมตร กิ่งก้านมีขนรูปดาวสีขาว เปลือกต้นสีน้ำตาลขรุขระ ทุกส่วนมีขน รากมีเปลือกหุ้มเป็นเยื่อบางสีเหลืองหรือสีเหลืองเข้ม ใบ เป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ รูปไข่หรือรูปวงรี กว้าง 3-8 เซนติเมตร ยาว 6-15 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบสอบมน หรือเป็นทรงกลมแคบ ขอบใบหยักไม่สม่ำเสมอ แผ่นใบหนา ด้านบนเกลี้ยง สีเขียวเข้ม แผ่นใบด้านล่างมีขนสีขาวจำนวนมาก ทำให้มองเห็นแผ่นใบสีขาวหรือสีเงิน ก้านใบยาว 1.5-5 เซนติเมตร มีขน หูใบรูปหอก ขนาดประมาณ 3 มิลลิเมตร ที่ฐานมีต่อม 1 ต่อม เส้นใบข้าง 4-5 คู่  ดอก ออกเป็นช่อที่ซอกใบ ยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร ก้านช่อยาว 1 เซนติเมตร ดอกแยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน แต่ละช่อมีดอกเพศเมีย 1 ดอก ดอกเพศผู้ 1-2 ดอก ดอกเพศผู้ มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ขนาด 1.5-2 มิลลิเมตร มีขนนุ่มรูปดาว เกสรเพศผู้สีเหลือง เป็นเส้นยาวยื่น 4 เส้น อับเรณูขนาด 0.5 มิลลิเมตร ก้านชูยาว 2-3 มิลลิเมตร มีเกสรเพศเมียที่เป็นหมัน ขนาด 0.5 มิลลิเมตร ดอกเพศเมียมีก้านดอกย่อยยาว 1.3 เซนติเมตร ใบประดับ 2 ใบ หนึ่งใบมีลักษณะคล้ายใบ ขนาด 9 มิลลิเมตร อีกใบเป็นรูปแถบ ขนาด 4 มิลลิเมตร ร่วงง่าย กลีบเลี้ยงติดคงทน รูปแถบ 6-7 กลีบ กว้าง 1 มิลลิเมตร ยาว 6-13 มิลลิเมตร มีขนนุ่ม ที่ขอบมีต่อมประปราย รังไข่กึ่งทรงกลม ก้านชู 3 อัน ขนาด 7 มิลลิเมตร ผลรูปทรงกลม ผลแห้งไม่แตก ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 มิลลิเมตร แบ่งเป็น 3 พู ผิวเป็นลายเส้นสีขาวทั้งผล และมีขนนุ่มสีขาว เมล็ดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 มิลลิเมตร พบตามป่าดิบ ป่าไม่ผลัดใบ  ป่าเขาหินปูน ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 200-500 เมตร ออกดอกและติดผลราวเดือนมีนาคมถึงพฤศจิกายน

 

ลักษณะวิสัย

 

 

ใบ

 

 

ดอก

 

 

ดอก

 

 

ผล


สรรพคุณ    
              ตำรายาไทย ราก รสเผ็ดขื่นเฝื่อนเล็กน้อย และมีกลิ่นหอม ช่วยขับลม แก้ท้องขึ้น ปวดแน่นท้อง หรือนำมาฝนกับน้ำปูนใสทาท้องเด็กอ่อน ทำให้ผายลม แก้ท้องอืดเฟ้อ แก้โรคในกระเพาะและลำไส้ ทำให้เจริญอาหาร หรือใช้ร่วมกับมหาหิงคุ์หรือการบูรก็ได้ หรือนำรากมาผสมกับรากกำยาน ต้มน้ำดื่ม บำรุงธาตุ บำรุงหัวใจ หรือผสมกับไพล กะทือบ้าน กะทือป่า กระเทียม ขิง พริกไทย ดีปลี เจตมูลเพลิงแดง บดเป็นผงละลายน้ำตาลทรายพอหวาน ดื่มเป็นยารักษาธาตุ เจริญอาหาร ขับลมในกระเพาะและลำไส้ ทั้งต้น ต้มน้ำหรือทำเป็นผง หรือดองเหล้า กินแก้ลมจุกเสียด ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ และท้องร่วง

 

ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง : phar.ubu.ac.th/herb-thaiherbarium/

ข้อมูลเครื่องยา           : phar.ubu.ac.th/herb-thaicrudedrug/

จำนวนครั้งที่มีการอ้างอิงหน้าเว็บไซต์นี้: 4
เกี่ยวกับระบบ:

ระบบนี้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก ระบบฐานข้อมูลสมุนไพรทั้ง 4 ฐาน โดยผู้พัฒนาได้ดำเนินการสร้างหน้า UX/UI ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นรูปแบบเดียวกันกับเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มอบ. แต่ยังคงใช้ฐานข้อมูล Database ของฐานข้อมูลสมุนไพรทั้ง 4 ฐานเดิมอยู่