ชุมเห็ดเทศ
ชื่อเครื่องยา | ชุมเห็ดเทศ |
ชื่ออื่นๆของเครื่องยา | |
ได้จาก | ใบสดและแห้ง |
ชื่อพืชที่ให้เครื่องยา | ชุมเห็ดเทศ |
ชื่ออื่น (ของพืชที่ให้เครื่องยา) | ชุมเห็ดใหญ่ ลับหมื่นหลวง ชี้คาก หมากกะลิงเทศ ส้มเห็ด |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Cassia alata L. |
ชื่อพ้อง | Senna alata (L.) Roxb., Cassia bracteata |
ชื่อวงศ์ | Leguminosae-Caesalpinoideae |
ลักษณะภายนอกของเครื่องยา:
ใบรูปวงรีแกมขอบขนาน หรือรูปไข่กลับ กว้าง 3-7 เซนติเมตร ยาว 6-15 เซนติเมตร โคนใบมน ปลายใบมน ฐานใบไม่เท่ากันทั้ง 2 ด้าน ขอบใบเรียบ ใบค่อนข้างหนา หยาบและเหนียว เมื่ออบแห้งแล้วมีสีน้ำตาลอมเขียวถึงสีน้ำตาล ผงมีสีน้ำตาลอมเขียว มีกลิ่นอ่อนๆ รสเบื่อเอียน ขมเล็กน้อย
เครื่องยา ชุมเห็ดเทศ
เครื่องยา ชุมเห็ดเทศ
เครื่องยา ชุมเห็ดเทศ
ลักษณะทางกายภาพและเคมีที่ดี:
ปริมาณความชื้นไม่เกิน 11% w/w ปริมาณสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 2% w/w ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 9% w/w ปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด ไม่เกิน 1.0% w/w ปริมาณสารสกัดเอทานอล(50%) ไม่น้อยกว่า 21% w/w สารสกัดน้ำ ไม่น้อยกว่า 18% w/w ปริมาณอนุพันธ์ไฮดรอกซีแอนทราซีน โดยคำนวณเป็น rhein-8-glucoside ไม่น้อยกว่า 1% w/w
สรรพคุณ:
ตำรายาไทย: ใช้ภายในแก้อาการท้องผูก เป็นยาระบาย ไปกระตุ้นทำให้ลำไส้ใหญ่บีบตัวดีขึ้น สมานธาตุ รักษากระเพาะอาหารอักเสบ แก้กระษัยเส้น ทำหัวใจให้ปกติ ขับปัสสาวะ ขับพยาธิ ใช้ภายนอก รักษาฝี และแผลพุพอง รักษากลาก เกลื้อน โรคผิวหนัง อมบ้วนปาก รักษาผิวหนังอักเสบเป็นผื่นคัน เส้นประสาทอักเสบ
ตำรายาพื้นบ้าน: ใช้ใบตำพอก เพื่อเร่งให้หัวฝีออกเร็วขึ้น หรือจะใช้ใบผสมกับน้ำปูนใสหรือเกลือหรือน้ำมันตำพอก รักษากลาก แมลงสัตว์กัดต่อย โรคผิวหนัง นอกจากนี้ยังใช้ใบตำพอกหรือคั้นเอาน้ำผสมน้ำปูนใสทาหรือผสมวาสลิน ใช้ทำเป็นยาขี้ผึ้งทา
รูปแบบและขนาดวิธีใช้ยา:
อาการท้องผูก
ใช้ใบจำนวน 12-15 ใบย่อย ตากแห้ง คั่ว (ใบชุมเห็ดเทศถ้าไม่คั่วเสียก่อน จะเกิดอาการข้างเคียง คืออาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เมื่อคั่วความร้อนจะช่วยให้สารที่ออกฤทธิ์ทำให้คลื่นไส้อาเจียนสลายไป) แล้วนำไปต้มกับน้ำพอควร ดื่มครั้งเดียวก่อนอาหารตอนเช้ามืด หรือก่อนนอน หรือใช้ผงใบ 3-6 กรัม ชงน้ำเดือด 120 มิลลิลิตร เป็นเวลา 10 นาที ดื่มก่อนนอน อาจทำเป็นยาลูกกลอนก็ได้ หรือใช้ช่อดอกสด 1-3 ช่อดอก ลวก จิ้มน้ำพริก
รักษาฝีแผลพุพอง
ใช้ใบชุมเห็ดเทศ 1 กำมือ ต้มกับน้ำพอท่วม เคี่ยวให้เหลือ 1 ใน 3 นำมาชะล้างฝีที่แตกแล้ว หรือแผลพุพอง วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ถ้าบริเวณที่เป็นกว้างมากใช้สมุนไพร 10-12 กำมือ ต้มกับน้ำใช้อาบเช้าเย็น จนกว่าจะหาย
กลากเกลื้อน
ใช้ใบสด 4-5 ใบ ตำรวมกับกระเทียม 4-5 กลีบ แล้วเติมปูนแดงเล็กน้อย ทาบริเวณที่เป็นซึ่งได้ใช้ไม้ไผ่บาง ๆ ฆ่าเชื้อแล้วขูดผิวบริเวณที่นั้นให้มีสีแดง(กรณีกลาก) ทาวันละ 3-4 ครั้ง จนกว่าจะหาย และเมื่อหายแล้วให้ทาไปอีก 1 สัปดาห์ หรือจะใช้ใบสดตำแช่เหล้า เอาส่วนเหล้าทาบริเวณที่เป็นวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย พบว่าได้ผลดี แต่ไม่ค่อยได้ผลในกลากที่ผมและเล็บ
ขับพยาธิ
ใบสดประมาณ 1 กำมือ (ประมาณ 20 กรัม) ต้มเอาน้ำดื่ม เหมาะใช้ถ่ายพยาธิตัวตืด
องค์ประกอบทางเคมี:
ใบมีสารแอนทราควิโนนหลายชนิด เช่น aloe – emodin , chrysophanol , emodin , rhein และสารกลุ่มแทนนิน สารฟลาโวนอยด์ เช่น kaemferol เป็นต้น ชุมเห็ดเทศเป็นยาระบายที่ดี เนื่องจากมีทั้งแอนทราควิโนน ซึ่งเป็นยาระบาย และแทนนิน ซึ่งเป็นยาฝาดสมาน จึงเป็นยาระบายที่สมานธาตุในตัว
การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก ช่วยระบาย ต้านเชื้อราที่เป็นสาเหตุโรคกลากเกลื้อน ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขับปัสสาวะ
การศึกษาทางคลินิก:
รักษาอาการท้องผูก รักษาโรคกลากและเกลื้อนได้
การศึกษาทางพิษวิทยา:
การทดสอบพิษเฉียบพลันของสารสกัดใบด้วยเอทานอล 50% โดยให้หนูกินในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (คิดเป็น 3,333 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) และให้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู ในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตรวจไม่พบอาการเป็นพิษ
อาการไม่พึงประสงค์:
อาจทำให้เกิดอาการปวดมวนท้อง เนื่องจากการบีบตัวของลำไส้ใหญ่ อาจมีอาการคลื่นไส้ อาหารไม่ย่อย และปวดท้องได้
ข้อห้ามใช้:
ห้ามใช้ในผู้ป่วยที่มีภาวะทางเดินอาหารอุดตัน ไม่ควรใช้เป็นยาระบายในสตรีมีครรภ์หรือให้นมบุตร (มีรายงานว่าสาร rhein ผ่านทางน้ำนมได้)
ข้อควรระวัง:
1.ระมัดระวังการใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี
2.การกินในขนาดสูงอาจทำให้เกิดไตอักเสบ
3.ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นเวลานานเพราะส่งผลให้มีการสูญเสียน้ำและเกลือแร่มากเกินไป และเนื่องจากการใช้ติดต่อกันนานจะทำให้ลำไส้ใหญ่ชินต่อยา ถ้าไม่ใช้จะไม่ถ่าย ดังนั้น จึงควรแก้ไข้ที่สาเหตุเช่นฝึกการขับถ่ายให้เป็นเวลา รับประทานผักผลไม้ที่มีเส้นใย ดื่มน้ำมากพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น
ค้นหาข้อมูลพืชที่ให้เครื่องยา : phar.ubu.ac.th/herb-phargarden/
ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง : phar.ubu.ac.th/herb-thaiherbarium/