ปลาไหลเผือก

คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี

ปลาไหลเผือก

ชื่อเครื่องยา ปลาไหลเผือก
ชื่ออื่นๆของเครื่องยา
ได้จาก ราก
ชื่อพืชที่ให้เครื่องยา ปลาไหลเผือก
ชื่ออื่น (ของพืชที่ให้เครื่องยา) กรุงบาดาล (สุราษฎร์ธานี); คะนาง, ชะนาง (ตราด); ตรึงบาดาล (ปัตตานี); ตุงสอ, แฮพันชั้น (ภาคเหนือ); เพียก (ภาคใต้); หยิกบ่อถองหรือหยิกไม่ถึง, เอียนด่อน (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ); ไหลเผือก (ตรัง);หมุนขึ้น
ชื่อวิทยาศาสตร์ Eurycoma longifolia Jack
ชื่อพ้อง Eurycoma latifolia Ridl., Eurycoma longifolia var. cochinchinensis Pierre, Eurycoma merguensis
ชื่อวงศ์ Simaroubaceae

ลักษณะภายนอกของเครื่องยา:
          รากกลมโต สีขาว สีขาวนวล รากที่มีอายุหลายปีจะมีความยาวมาก อาจยาวมากกว่า 2 เมตร รากมีรสขม  เบื่อเมาเล็กน้อย

 

เครื่องยา ปลาไหลเผือก

 

เครื่องยา ปลาไหลเผือก

 

เครื่องยา ปลาไหลเผือก

 

เครื่องยา ปลาไหลเผือก

 


ลักษณะทางกายภาพและเคมีที่ดี:
            ปริมาณความชื้นไม่เกิน 8% w/w ปริมาณสิ่งแปลกปลอมไม่เกิน 2 % w/w  ปริมาณเถ้ารวมไม่เกิน 4% w/w ปริมาณเถ้าที่ไม่ละลายในกรด ไม่เกิน 2.0% w/w ปริมาณสารสกัดเอทานอลไม่น้อยกว่า 2% w/w ปริมาณสารสกัดน้ำไม่น้อยกว่า 7% w/w (THP)


สรรพคุณ:
          ตำรายาไทย: ใช้ ราก รสขม เบื่อเมาเล็กน้อย ถ่ายพิษต่างๆ ถ่ายฝีในท้อง ถ่ายพิษไข้พิษเสมหะ และโลหิต แก้ไข้ แก้ไข้มาลาเรีย ตัดไข้ทุกชนิด แก้ลม แก้วัณโรคระยะบวม ขับเหงื่อ ขับพยาธิ แก้ต่อมทอนซิลอักเสบ แก้เจ็บคอ ความดันเลือดสูง อัมพาต ขับถ่ายน้ำเหลือง แก้ท้องผูก
          ยาสมุนไพรพื้นบ้านจังหวัดอุบลราชธานี: ใช้ ราก ต้มน้ำดื่ม แก้ไข้ ฝนน้ำดื่ม แก้ปวดท้อง
           ราก นำไปเข้ายาบำรุงกำลัง นำรากผสมกับรากโลดทะนงแดง และพญาไฟ ฝนน้ำดื่ม แก้ไข้ ใช้เลิกเหล้า รากผสมรากย่านางแดง และพญายา ฝนน้ำกินขับพิษ รากผสมกับรากโลดทะนงแดงและพญาไฟ ฝนน้ำกิน ทำให้อาเจียน ใช้เลิกเหล้า
           นอกจากนั้นยังใช้เป็นส่วนประกอบในตำรับยาแผนโบราณ ได้แก่ “ยาสามราก” (ประกอบด้วยรากพืช 3 ชนิดคือ รากโลดทะนง รากฮังฮ้อน และรากปลาไหลเผือก) ทำให้อาเจียน และถ่าย ใช้ล้างพิษยาเสพติด ใช้บำบัดผู้ที่ติดยาเสพติด และแก้อาการลงแดงจากยาเสพติด โดยยานี้จะทำให้อาเจียน และถอนพิษยา
           เข้าตำรับ “ยาประสะเหมือดคน” แก้ไข้ แก้ร้อนใน นอกจากนั้นยังใช้รากมาผสมหญ้าแห้วหมู และรากผักติ้ว ต้มน้ำดื่มแก้ปัสสาวะขัด  เป็นส่วนประกอบใน ”ตำรับยาจันทน์ลีลา” ใช้รักษาไข้ตัวร้อน ไข้เปลี่ยนฤดู
           ประเทศมาเลเซีย: ใช้ ราก  ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ บำรุงหลังคลอดบุตร ใช้ภายนอกเป็นยาพอกแก้ปวดหัว ปิดบาดแผลพุพอง และยังมีสรรพคุณหลายประการ เช่น มีคุณสมบัติต้านเชื้อไวรัส เชื้อไข้มาเรีย ลดอาการไข้ ต้านโรคของอาการภูมิแพ้ต่างๆ ต้านเซลล์มะเร็ง และความดันโลหิตสูง เป็นที่นิยมมากในมาเลเซีย

รูปแบบและขนาดวิธีใช้ยา:
           ตำรายาไทยใช้รากแก้ไข้ โดยใช้รากแห้งครั้งละ 1 กำมือ (หนัก 8-15 กรัม) ต้มกับน้ำดื่มก่อนอาหาร วันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น

องค์ประกอบทางเคมี:
           มีสารออกฤทธิ์ที่มีรสขมกลุ่ม quassinoids ได้แก่  eurycomalactone, eurycomanol, eurycomanone มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อมาเลาเรียฟัลซิพารัมในหลอดทดลอง

การศึกษาทางเภสัชวิทยา:
           มีฤทธิ์ลดไข้ ต้านมาลาเรีย  มีฤทธิ์กระตุ้นความรู้สึกทางเพศของหนูตัวผู้  ลดความวิตกกังวล เป็นพิษต่อเซลล์มะเร็ง  ต้านการก่อเกิดเนื้องอก ลดน้ำตาลในเลือด

การศึกษาทางคลินิก:
           ไม่มีข้อมูล

การศึกษาทางพิษวิทยา:
           การทดสอบพิษเฉียบพลันของสารสกัดรากด้วยเอทานอล 50% โดยให้หนูกินในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม (คิดเป็น 1,786 เท่า เปรียบเทียบกับขนาดรักษาในคน) และให้โดยการฉีดเข้าใต้ผิวหนังหนู ในขนาด 10 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ตรวจไม่พบอาการเป็นพิษ

 

ค้นหาข้อมูลพืชที่ให้เครื่องยา : phar.ubu.ac.th/herb-phargarden/

ตัวอย่างพรรณไม้แห้ง : phar.ubu.ac.th/herb-thaiherbarium/

จำนวนครั้งที่มีการอ้างอิงหน้าเว็บไซต์นี้: 33
เกี่ยวกับระบบ:

ระบบนี้ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก ระบบฐานข้อมูลสมุนไพรทั้ง 4 ฐาน โดยผู้พัฒนาได้ดำเนินการสร้างหน้า UX/UI ขึ้นมาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เป็นรูปแบบเดียวกันกับเว็บไซต์ของคณะเภสัชศาสตร์ มอบ. แต่ยังคงใช้ฐานข้อมูล Database ของฐานข้อมูลสมุนไพรทั้ง 4 ฐานเดิมอยู่